Thailand Flag Orb

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คำศัพท์ที่น่าสนใจ





ความรู้เพิ่มเติม


การอ่านคำภาษาบาลี
คำในภาษาบาลี เมื่อนำมาเขียนถ่ายทอดเป็นภาษาไทยแล้ว จะมีลักษณะที่ควรสังเกตประกอบการอ่าน ดังนี้
๑. ตัวอักษรทุกตัวที่ไม่มีเครื่องหมายใดอยู่บนหรือล่าง และไม่มีสระใดๆ กำกับไว้ ให้อ่านอักษรนั้นมีเสียง "อะ" ทุกตัว
๒. เมื่อตัวอักษรใดมีเครื่องหมาย  ฺ (พินทุ) อยู่ข้างใต้แสดงว่าอักษรนั้นเป็นตัวสะกดของอักษรที่อยู่ข้างหน้า ผสมกันแล้วให้อ่านเหมือนเสียง อะ+(ตัวสะกด) นั้น
๓. เมื่ออักษรใดมีเครื่องหมาย  ํ (นฤคหิต) อยู่ข้างบนตัวอักษร ให้อ่านให้เหมือนอักษรนั้นมีไม้หันอากาศและสะกดด้วยตัว  "ง"

วิเคราะห์วิจารณ์


คุณค่าด้านเนื้อหา 
มงคลสูตรคำฉันท์  เป็นวรรณคดีที่มีเนื้อหาเป็นคำสอนทางพระพุทธศาสนา  ว่าด้วยเรื่องของ  มลคล ๓๘  ประการ  ซึ่งเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้  โดยเน้นว่า การปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นลำดับจากง่ายไปยาก และถ้าหากปฏิบัติได้แล้ว จะทำให้ชีวิตมีแต่ความก้าวหน้าและผาสุก
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
เนื้อ ความในมงคลสูตรคำฉันท์แม้จะมีที่มาจากคาถาบาลีและมีคำศัพท์ในทางพระพุทธ ศาสนาอยู่เป็นอันมาก แต่ก็เป็นคำที่เข้าใจความหมายได้ไม่ยาก เช่น  โสตถิ  ภควันต์  อภิปูชนีย์ชน  เป็นต้น
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสามารถถ่ายทอดและเรียบเรียงเนื้อความเป็นภาษาไทยได้อย่างเรียบง่าย  แต่มีความไพเราะสละสลวย  และสามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน
คุณค่าด้านสังคม                       
มงคลสูตรคำฉันท์เป็นวรรณคดีที่มีมาจากมงคลสูตรซึ่งเป็นคำสอนในทางพระพุทธศาสนาที่ทุกคนโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชนเมื่อได้นำไปปฏิบัติแล้วย่อมจะทำให้ชีวิตประสบกับ มงคล หรือความสุขอย่างแท้จริง  เนื่องจากแนวทางต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมงคลสูตรทั้ง ๓๘ ประการ  เน้นไปที่การนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยตนเองเป็นสำคัญ  นอกจากนี้หากทุกคนได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม ย่อมส่งผลให้สังคมเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย

ลักษณะในการแต่ง


ใช้คำประพันธ์ ๒ ประเภท คือ
กาพย์ฉบัง ๑๖และ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
โดยทรงลงท้ายคำประพันธ์ทุกบทด้วยข้อความเดียวกันว่า ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี ซึ่งมีที่มาจากคาถาภาษาบาลีที่ว่า เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ

ข้อคิดที่ได้รับ


  1. ได้รู้ถึงวิธีการปฏิบัติตนเพื่อให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตในด้านต่างๆ   2. ได้ศึกษาภาษากวีนิพนธ์ที่สละสลวย ไพเราะทั้งถ้อยคำและเนื้อความ
  3. ทำให้เราเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้มากขึ้น

เนื้อเรื่องย่อ


        


         สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงมงคลอันสูงสุด 38 ประการ  ไว้ในมงคลสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรสำคัญบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา  มงคลสูตรปรากฏในพระสุตตันตปิฏก  ขุททกนิกาย หมวดขุททกปาฐะ
          พระอานนทเถระได้กล่าวถึงที่มาของมงคลสูตรว่า  ท่านได้ฟังมาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ณ เชตวันวิหาร  กรุงสาวัตถี  มงคลสูตรนี้เกิดขึ้นด้วยอำนาจคำถาม  คือ  พระพุทธเจ้าทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า  มีเทวดาเข้ามาทูลถามพระองค์เรื่องมงคล  เพราะเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นทั้งในหมู่เทวดาและมนุษย์  ที่มีลัทธิเรื่องมงคลแตกต่างกันเป็นเวลานานถึง 12 ปี  ท้าวสักกเทวราชจึงทรงมอบหมายให้ตนมาทูลถาม  พระพุทธองค์จึงตรัสตอบเรื่องมงคล 38 ประการ  ต่อจากราตรีนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเรื่องมงคลนี้แก่พระอานนท์อีกครั้งหนึ่ง

จุดมุ่งหมายในการแต่ง


๑)   มงคล ๓๘ ประการ เป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้ โดยเน้นที่ การปฏิบัติด้วยตนเองเป็นลำดับจากง่ายไปยาก และถ้าหากปฏิบัติได้แล้ว จะทำให้ชีวิตมีแต่ความก้าวหน้าและผาสุก โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยใดๆ ภายนอก เนื่องจากการปฏิบัติด้วยตนเองย่อมมอบความเป็นมงคลที่แท้จริงให้แก่ชีวิต
 ๒) มงคลสูตร เป็นคำสอนในทางพระพุทธศาสนาที่ทุกคนโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน เมื่อได้นำไปปฏิบัติแล้ว ย่อมจะทำให้ชีวิตประสบกับ มงคล หรือความสุขอย่างแท้จริง เนื่องจากแนวทางต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมงคลสูตรทั้ง ๓๘ ประการ เน้นไปที่การนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยตนเองเป็นสำคัญ

ประวัติผู้แต่งมงคลสูตรคำฉันท์


      พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ วันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นสมเด็จเจ้าฟ้าองค์ที่ 2 ในจำนวน 9 พระองค์ที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พระพันปีหลวง พระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 ณ พระที่นั่งในพระบรมมหาราชวังชั้นใน เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม   ปีจอ พุทธศักราช 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 รวมพระชนมพรรษา 46 พรรษา

 พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์งานประพันธ์หลายประเภท เช่น บทละคร บทความ สารคดี นิทาน นิยาย เป็นต้น บทพระราชนิพนธ์หลายเรื่องยังได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของวรรณคดีหรือเป็นหนังสือที่แต่งดี อาทิ หัวใจนักรบ เป็นยอดบทละครพูดร้อยแก้ว มัทนะพาธาเป็นยอดของบทละครพูดคำฉันท์  พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" ซึ่งหมายถึงนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ และใน พ.ศ. 2515 พระองค์ได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ให้ทรงเป็น 1ใน5 นักปราชญ์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย

ที่มาของมงคลสูตรคำฉันท์


       
       เมื่อ พ.ศ. 2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว  ทรงนำมงคลสูตรมาทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทร้อยกรองประเภทคำฉันท์  โดยใช้คำประพันธ์ 2 ชนิดคือ  กาพย์ฉบัง 16 และอินทรวิเชียรฉันท์ 11 ทรงนำคาถาภาษาบาลีจากพระไตรปิฏกตั้งแล้วแปลถอดความเป็นร้อยกรองภาษาไทย  ได้ถูกต้องตรงตามบังคับในฉันท์ลักษณ์โดยไม่เสียเนื้อความจากพระคาถาบาลี  การจัดวางลำดับของมงคลแต่ละข้อก็เป็นไปตามที่ปรากฏอยู่ในพระคาถาเดิม  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านภาษาได้อย่างดียิ่ง 
       มงคลสูตรคำฉันท์  เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว  มีเนื้อหาว่าด้วยมงคล 38 อันเป็นพระสูตรหนึ่งในพระไตรปิฎก  พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกายหมวดขุททกปาฐะ
       คำว่า ''มงคล'' หมายถึง เหตุแห่งความเจริญก้าวหน้าหรือทางก้าวหน้า และ ‘‘สูตร’’ หมายถึง  คำสอนในพระพุทธศาสนา  มงคลสูตร  จึงหมายความว่า  พระธรรมหรือคำสอนในพระพุทธศาสนาที่จะนำมาซึ่งความสุขและความเจริญก้าวหน้า
       คำว่า  ''มงคล''  ในทางพระพุทธศาสนา  ได้แก่เหตุที่ทำให้ชีวิตเป็นสุขและมีความเจริญก้าวหน้า  ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ใน  ''มงคลสูตร''  เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ยึดถือและปฏิบัติ  มีทั้งสิ้น  38  ประการ